วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เพลงฉ่อย


เวลาพอหรือยัง??

..เวลาในแต่ละวันที่ผ่านไป..เคยมั้ยที่จะย้อนถามตัวเองว่าใช้มันไปอย่างคุ้มค่าแล้วหรือยัง???...
   ....เวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน..แต่ละวันก็มีเวลาเท่ากันแบบนี้...แต่...เคยมั้ยสักวันที่เคยบอกว่าหนึ่งวันเวลามันเคยพอ...ไม่มีเลย..ไม่เคยมีคำว่าพอสำหรับเวลา...หากเรายังไม่รู้จักคุณค่าของมัน...หากเรายังปล่อยให้มันผ่านไปวันๆ..ผ่านไปเพียงแค่ให้ได้ยังหายใจ...
        เราไม่อาจรู้ได้หรอก..ว่าเราจะยังหายใจได้ต่อในวันพรุ่งนี้หรือไม่..เราไม่รู้ได้หรอก..ว่าเราจะยังหายใจต่อไปได้อีกกี่นาที...แต่..เราควรรู้..ว่าเราจะทำอย่างไรให้ทุกนาทีมันคุ้มค่ากับลมหายใจและเวลาที่กำลังหมุนอยู่...ฉันเองก็เป็นคนนึง..ที่ปล่อยให้เวลาในแต่ละวันล่วงเลยไปอย่างไร้จุดหมาย...ฉันปล่อยให้มันเดินไปอย่างสบาย ๆ ตามที่ใจต้องการ...ถามว่าฉันเสียดายเวลาที่ผ่านไปเหล่านั้นมั้ย?..ฉันก็เสียดาย..แต่ฉันก็มีความสุขกับเวลาที่ฉันปล่อยให้มันผ่านไปด้วยความตั้งใจของฉันเอง...ฉันคิดว่าอะไรที่เราตั้งใจทำมันลงไปไม่ว่าจะดีจะร้ายก็ไม่ควรมานั่งเสียดายเสียใจเพราะนั่นมันคือการตัดสินใจของเราเอง...เราไม่สามารถย้อนเวลาเหล่านั้นกลับคืนมาได้...ปัจจุบันและอนาคตต่างหากที่เราต้องจัดการและเดินไปพร้อมกับมัน...แต่..ถ้าถามฉันว่า..แล้วฉันจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไปกับวันและเวลาในวันพรุ่งนี้ที่ไม่รู้ที่สิ้นสุด?...ฉันก็จะตอบว่า...ฉันก็จะทำทุกวันให้มีค่าที่สุดเท่าที่ใจคิดว่ามันมีคุณค่าสำหรับฉัน...ซึ่งคำว่าคุณค่าในที่นี้ของฉัน..มันก็เป็นเหมือนทุกวันที่ฉันเคยทำมานั่นละ...คือ..ปล่อยให้เวลาในแต่ละวันผ่านไปด้วยความตั้งใจของฉันเอง..บางวันอาจปล่อยให้มีสาระ..บางวันอาจปล่อยให้ไม่มีสาระ..แต่นั่นมันคือความสุขของฉัน..ดังนั้นอะไรที่ฉันเรียกว่ามันคือความสุข..มันก็คือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับฉันแล้วละ...
      ... กระจกที่สะท้อนเงาของเราอยู่ทุกวันใช่เพียงส่องแค่ร่างกาย..แต่มันส่องให้เห็นชีวิตทั้งชีวิตของเราต่างหาก..ไม่มีใครรู้ชีวิตของใคร..ดีไปกว่าใจของเราเอง...เวลาจะคุ้มค่ามากหรือน้อยเพียงใดมันอยู่ที่ใจของเราคิดเอง...


 "จงเชื่อมั่นในความคิดของคุณเอง...ถ้ามันคือความสุข..นั่นก็คือคุณค่าที่คุ้มที่สุดในชีวิตของคุณ"
                                                                                             ....รักในสายหมอก...

หนาวใจ(ฟ้าหลังฝนต้องสดใส)

..หนาวใจ...
สายฝนทั่งหยาดหยดรดทิวเขา       สายลมเหงาพัดเบาปลายยอดสน
หัวใจช้ำสุดแสนระทมทน                ใจหมองหม่นไร้คนคอยดูแล
หัวใจนี้สุดแสนระบมนัก                   ต้องอกหักซ้ำซากนะดวงแข
ใจมั่นคงรักยอดชายมิผันแปล         แต่อ่อนแอปล่อยน้ำตาดั่งฝนพรำ
ลมหนาวโบกวิหคบินถวิลหา         เหยียบยอดหญ้าคำนึงถึงคนึงซ้ำ
วาจาเอ่ยทุกวัจนาทุกถ้อยคำ           สุดชอกช้ำใจดวงนี้มิลางเลือน
ฤดูฝนพ้นผ่านไปนานหลายครา       แต่ดวงตาบอบช้ำมิแม้นเหมือน
ความเจ็บปวดรวดร้าวมิจางเจือน    ยังเป็นดาบคมเฉือนทุกวี่วัน
เมื่อไหร่หนาใจนี้จะหายหม่น           ไม่ร้อนรนตรมตรอกคอยหยอกหยัน
เมื่อไรเล่าน้ำตาสายฉกรรจ์              จะเหือดหายไปชั่วกัลกาลเวลา
ฟ้าหลังฝนเหมือนคนที่เริ่มใหม่        ตั้งตัวได้รีบลุกอย่ารอช้า
ใจต้องแข็งใจต้องสู้เป็นเหล็กกล้า   ต้องเดินหน้าต่อไปได้สักวัน...
                                                                     ....รักในสายหมอก....